(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/03/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AB-696x364.jpg)
5 วิธีแก้นิสัยคนขีโกรธให้กลายเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)
1. ระงับคำกล่าวและก็ความประพฤติปฏิบัติในยามที่โกรธเป็นหากคิดว่า อารมณ์กำลังพล่าน
ให้สงบนิ่งไว้ จดจำไว้เสมอว่า...ความคิดใดๆก็ตามคำกล่าวอะไรก็ตามความประพฤติอะไรก็แล้วแต่ถ้าเกิดมีขึ้นในยามโก รธ
มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจสะใจชั่วขณะเวลาหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดจะไม่เป็นผลดี
ก ฏเหล็กเบื้องต้นที่จำเป็นต้องทำให้ได้เป็น...เราจะไม่พูดหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ
คอยให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยว่ากัน
2. พินิจพิเคราะห์โท ษของความโก รธและประโยชน์ที่ได้รับมาจากความเมตตาคือให้ย้อนนึกถึงชีวิตก่อนหน้านี้
ว่าพวกเราเสียอะไรไปบ้างเพราะเหตุว่าความโก รธทำคนใดเสียใจกี่คน ทำลายโอกาสได้ไปเท่าไหร่
ทำลายความข้องเกี่ยวไปเช่นไรสิ่งพวกนี้ให้ก้มมาคิดบ่อยๆคิดซ้ำให้มากมายๆ
พินิจพิเคราะห์จนปัญญาเห็นด้วย หมดข้ออ้างอย ากปรับแต่งตัวเองด้วยความเต็มใจ
เพราะมั่นอกมั่นใจแล้วว่า ความขุ่นเคืองไม่ใช่ของดีแม้กระนั้นเป็นสิ่งที่ทำลายความสุขรวมทั้งความเจริญรุ่งเรือง
ทั้งของเรา ผู้ที่พวกเรารัก แล้วก็ผู้ที่รักพวกเราไม่มีผู้ใดได้อะไรเลยจากความโก รธ
ธรรมชาติคนเราไม่ชอบให้คนไหนกันแน่มาสั่งตราบที่พวกเรายังไม่ต กผลึ กยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเองว่า
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องเปลี่ยนตัวเองผู้ใดกันจะพูดผู้ใดกันจะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่คนเราจะเปลี่ยนแปลง
เช่นนี้แล้ว เราก็เลยจำเป็นต้องประพฤติตนเป็นคุณครูของตนเองเพื่ออบรมสั่งสอนตัวเองให้เห็นพิ ษภั ยของความโก รธรังเกียจอารมณ์ทำลาย
3. สร้างความสุขเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นจนเป็นนิสัยคือให้รู้จักยกย่อง ให้กำลังใจผู้คนเป็นประจำ
เมื่อทำให้เขาเป็นสุขแล้วให้พวกเรารู้จักเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้จิตใจพวกเราจับใจ
กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่ตลอดพวกเราอาจจะลองเปรียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์รูปแบบนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ
แบบไหนดีมากยิ่งกว่ากันหากจิตใจเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆเหนื่อยหน่ายความโมโหรังเกียจชิ งชั งไปทีละเล็กทีละน้อย
ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลปรปักษ์ถ้าเกิดความขุ่นเคืองเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความเมตตา
เราบางทีอาจไล่ส่งความมืดมนมิได้แต่ว่าหากเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดดำจะหายไปและความสว่างจะเข้ามาแทนที่
ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงข้ามมาจัดการกิเล สให้บางเบา
4. ฝึกมองความรู้สึกด้วยความจริงใจที่เป็นกลางในข้อนี้เป็นธรรมะชั้นลึก เป็นการเจริญรุ่งเรืองสติ
คือพวกเราฝึกดูอารมณ์ต่างๆของเราด้วยความเต็มใจที่เป็นกลางเหมือนความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่พวกเรา
ดีใจก็ไม่เข้าไป เศร้าใจก็ไม่เข้าไปคนชื่นชมก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกฝนให้มีความคิดเห็นว่าอารมณ์ความคิดกลุ่มนี้
หากหัวใจเราเข้าไปยึดท้ายที่สุดก็ไม่ดีทั้งนั้นเนื่องจากยึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยราวกับในกำเหรียญเอาไว้ในมือ
ก็จะได้ทั้งยังหัวทั้งยังก้อยมาในครั้งเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในข้อนี้แม้ฝึกฝนบ่อยๆนอกจากความโกรธเคืองแล้วยังช่วยกำจัดตัดทอนพลังความนึกคิดด้านล บได้ทั้งผอง
อย่างเช่นความเศร้าความเดียวดายความเบื่อหน่ายต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
5. รู้จักอยู่ รู้จักข้อด้อยจุดแข็ งของตนเองคือให้รู้จักสังเกตตนเองถ้าเราโก รธผู้ใดกันแน่เป็นประจำ
เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางครั้งบางคราว กับคนบางบุคคลให้สังเกตดูเหอะว่า พวกเราก็โกรธเขา
โกรธคนๆนี้ จนกระทั่งแปลงเป็นความเคยชินเพียงแต่มองเห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร
ใจก็วูบๆไหวๆความรำคาญก็เริ่มเข้ามาที่ตรงนี้ควรจะหลบหลีกการเผชิญหน้าทั้งนี้ในเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
อาทิเช่นเป็นคนภายในครอบครัว เป็นผัวภรรย าเป็นลูก เป็นนายจ้าง ลูกน้อง มิตรสหาย แบบนี้ก็ให้ชูเอาสิ่งที่เขาทำขั ดหัวใจพวกเรา
มาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการฝึกหัดจิตใจของเรา ฝึกหัดอภั ยดียิ่งกว่าปล่อยใจของพวกเราให้ต กต่ำไป
เนื่องจากมัวแต่วิวาทกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้เราทราบไว้ว่า ส่วนใหญ่แล้ว
แม้ไม่ตรงกันแต่ว่ามีความจำเป็นจำต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักมีสาเหตุจากมีบุญก ร ร ม
ชมรมด้วยกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนแบบงี้ยิ่งต้องรู้จักระวัง ยับยั้ง สำรวม
อย่าไปก่อกรรมให้กันและกันเพิ่มขึ้นการเป็นคนโมโหง่าย ไม่มีอะไรดีมีแม้กระนั้นเสียประโยชน์ เสียทั้งยังสุขภาพกายหัวใจ
ทำลายความเกี่ยวข้อง ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนเปลี่ยนเป็นคนที่สร้างความทุ กข์ให้คนอื่นๆ
แล้วก็ตัวเองก็กล่าวโทษสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกแรกๆจะทำเป็นย ากแต่ว่าขอให้ทรหดอดทนฝึกฝนทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ
สำคัญคือจะต้องมีพลังใจ รวมทั้งวินัยฝึกฝนแรกๆอย่าปล่อยใจตามความเคยชินของตนสุดท้ายแล้วเราควรจะมีความรู้ความเข้าใจว่า
การลดพยายามอนัตตาของตนลดความโกรธชังของตัวเองพวกเราไม่ได้ทำเพื่อผู้ใดกันแต่พวกเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตัวเอง
เพื่อความสำราญของเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ถ้าหากทำเป็นวันหนึ่ง ทราบจะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต
มีชีวิตที่เบาขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นพวกเราจะยินดี แล้วก็รู้สึกขอบคุณมากตัวเองรู้สึกกระหยิ่มใจว่า เราสามารถข้ามผ่านตัวตนเก่าๆ
ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีกว่าเดิมและสิ่งนี้เป็นการมอบความรักแล้วก็ความเมตตาให้ตนเองอย่างแท้จริง...
ใจเย็นขึ้น (https://freelydays.com/12886/)
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/