• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้ทราบ จากการเป็นลูกจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Naprapats, April 04, 2023, 06:40:34 PM

Previous topic - Next topic

Naprapats

1. เพราะพวกเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานอย่ างเดียว

พวกเรามิได้ดำเนินงานแล้วแฮปปี้แต่ละวัน หลายหนที่พวกเรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แม้กระนั้นถ้าเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต อาทิเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ หรือแม้กระทั่งต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่พวกเราถูกใจจะก่อให้ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น รวมทั้ง เพิ่มความแน่ใจ เพราะเหตุว่าการเฟลจากที่ปฏิบัติงานส่วนใหญ่มักทำให้เราท้อแท้ใจ และขาดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง สำหรับเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และ อีกเยอะแยะ


ยกตัวอย่ าง... มีสหายคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามาก จริงจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ ในช่วงเวลานี้ปฏิบัติงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จวบจนตอนนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากยิ่งกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. ทราบยัง

สำหรับพนักงานประจำตัวจ้อยอย่ างพวกเรา สิ่งที่เรายำเกรงที่สุดในสถานที่สำหรับทำงานก็คงหนีไม่พ้นนายจ้าง คนที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยแตกต่างกันไป อย่ างตัวเราเคยพบทั้งๆที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานมาก ไปจนกระทั่งวันๆไม่ทำงานทำการ คอยสั่งคนนู้นหนคนนี้หน แต่พอใช้ดูดีๆเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่ว่าคนๆนี้มันจะมาบ่นว่าเกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานมากไม่ได้ไง ทำไมน่ะเหรอ นอกจากจะโดนหัวหน้าของเค้าเองเหม็นหน้าแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความนับถือด้วย หนำซ้ำบางทีอาจจะหาเรื่องกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


ถ้าให้เสนอแนะก็อย ากจะกล่าวว่าพย าย ามเข้าใจเค้าดีมากยิ่งกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างพวกเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนชั่วบ้ า ง นิสัยก็ต่างกันบ้ า งเป็นเรื่องปกติ อย่ าเห็นว่าเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองในมุมที่ว่าถ้าเกิดเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานที่ไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปพบครอบครัว

ไม่ได้อย ากอยู่ดึกๆให้ผู้ที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากดำเนินงาน ก็อย ากท่องเที่ยวแบบเดียวกันนั่นแหละ แต่แค่ออกหน้าชอบบ่นแบบเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกภาพ

แค่พวกเรานำเสนองานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจำต้องเอางานพวกเราไปเสนอกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องคนไหนที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นธรรมดา

3. อย่ ามั่นใจในตัวเองเหลือเกินในโลกออนไลน์

คนจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แม้กระนั้นรู้รึเปล่าว่า HR สมัยนี้นอกเหนือจากที่จะมอง resume พวกเราแล้ว ยังดูเ ฟ ส บุ ค ของพวกเราด้วย เพื่อนพ้องเราที่เป็น HR ยืนยันมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่จริงจริงของเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า มองเห็นไหมว่าตัวตนบนโลกออนไลน์

ของพวกเรานั้นมีผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มกำลัง เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระวัง อย่ างเราคือไม่แตะเฟสบุ้คเลย หรือถ้าหากจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าหากหัวหน้ามาเห็นก็ช่างเถอะ


หากอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาห้วยที่พด้วย เนื่องจากว่า ส่วนใหญ่คนในสถานที่สำหรับทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในที่ทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลาเบาปัญญา ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่ๆ...!! เตือนแล้วนะ

4. จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา สนใจ ตั้งใจ แม้กระนั้น... อย่ าเก็บทางวิ่งบุคคลอื่นมาริษยา

ตอนปีให้หลังมานี้ เพื่อนพ้องพวกเราหลายคนเริ่มเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางบุคคลแปลงงานไปงานที่ค่าจ้างรายเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตัวเอง บางครั้งบางคราวเราเลื่อนดูหน้าเฟสรวมทั้งแอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้เจริญ แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แต่บอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็มิได้ดีมากกว่าเราหรอกเผลอๆเพื่อนพ้องผู้คนจำนวนมากบางทีก็อาจจะกำลังอิจฉาริษยาชีวิตเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... เป็นตัวเราเองก็มิได้คิดเลยว่าชีวิตพวกเราดี สิ่งที่เราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี ต้องจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น

โฟกัสที่ลู่วิ่งของเรา รู้ดีว่าเรากำลังจะทำอะไร ทราบดีว่าปลายทางเราอยากอะไร ทราบดีว่าวันนี้พวกเราประพฤติดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบมองลู่วิ่งคนอื่นๆบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้เราตั้งใจจริงกับชีวิตมากเพิ่มขึ้น แต่ว่าอย่ าเก็บมาเอาใจใส่จนกลัดกลุ้มพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

เดี๋ยวก่อน...!! อย่ าเพิ่งจะตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนมิได้มีความหมายว่า ให้เราไม่ต้องจิรงหัวใจกับผู้ใดกันแน่ แต่ว่า... แสดงว่า " เราไม่สนใจข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสำนักงานหลายๆที่

มีการเล่นพวกเล่นพ้อง หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าคนที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) จำนวนมากปราศจากความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแม้กระนั้นเล่นเค้าไว้เยอะแยะนี่ห้ามเสียทีเลยจ้า มีคนคอยซ้ำเยอะแยะเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่เป็น... การที่พวกเรามองว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร มิได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือ ฝ่าฝืนตนเอง แม้กระนั้น... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ

โตมาในสังคมที่แตกต่างกัน การที่เราดูแล้วทราบดีว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะทำให้พวกเราเหนือกว่ามากมายๆนอกเหนือจากวางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางบุคคลที่ดูแล้วผิดจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักสวัสดีตามมารย าท ไม่จำเป็นที่จะต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... เราไม่เคยรู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปทำงานกับคนไหนกัน ด้วยเหตุดังกล่าว อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงมิได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แม้กระนั้นในอนาคต อาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนด่าตอนอายุ 50

เนื่องจากว่าอายุยังน้อย ความมุ่งมาดจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับการทำงานสุดๆแต่ว่าเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดีกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนกระทั่ง 50-60 ก็ผ่านช่วงแบบพวกเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะชี้แนะคือ.. ใช้เวลานี้ให้คุ้มค่า เรามิได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย าเรื่องมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันไม่ดีก็พรีเซ้นไปเรื่อยๆฝึกไปเรื่อยโดนด่าช่วงนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50 มากมาย แม้จะผิดพลาด ด้วยความยังเด็ก และก็ อ่อนประสบการณ์ คนโดยมากพร้อมจะยกโทษพวกเราเสมอ ด้วยเหตุนั้น ล้มเหลวไม่น้อยเลยทีเดียวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามไม่เหมือนกันระหว่าง " สหาย " กับ " สหายร่วมงาน " เป็นยังไง ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย ากก็น่าจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม และก็การหาเพื่อนในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันหมายความว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน เราจะหาเพื่อนฝูงย ากขึ้นแค่นั้น และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนที่แท้ใจคนนึงในที่ทำงานมันย ากขนาดไหน


นอกจากจะมีเรื่องผลตอบแทน ทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การคาดคะเน เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนเงินเดือนอย่ างเราคือไปดำเนินการ ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานชมรมหาเพื่อน โดยเหตุนั้นวันๆเราก็เลยจะเจอแค่เพื่อนฝูงร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนมากและก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น

เราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องส่วนบุคคลและก็เรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน รวมทั้งสหายร่วมงานในคราวเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้ววางใจอย่างงี้ เราคิดว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต พย าย ามหาคนพวกนี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหนึ่งก็ยังดี ) ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้เผชิญ

เสวนาแลกความเซ็งดีแล้ว ให้เราทดลองถามตนเองว่า "หากเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" ถ้าเกิดคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " สหายร่วมงาน " ให้เจอ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ไม่เหมือนกันระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนฝูงใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม รวมทั้งการหาเพื่อนในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแสดงว่ายิ่งเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน พวกเราจะหาเพื่อนย ากขึ้นแค่นั้น

และไม่ต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่แท้หัวใจคนนึงในที่ทำงานมันย ากเพียงใด นอกจากจะมีเรื่องผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การคาดการณ์ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราเงินเดือนอย่ างพวกเราคือไปดำเนินการ มิได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาสหาย โดยเหตุนั้นวันๆเราก็เลยจะเจอเพียงแค่เพื่อนร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่และก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่เจอกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องเฉพาะบุคคลรวมทั้งเรื่องงาน กล่าวได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และสหายร่วมงานในคราวเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้ววางใจแบบงี้ พวกเรามีความรู้สึกว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนพวกนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดนึงก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเจอ คุยแลกความเซ็งก็ดี ให้เราทดลองถามตัวเองว่า "ถ้าหากเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณพบเพื่อนจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

8. จงเป็น " ลูกจ้างมือโปร "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าหากอย ากบรรลุผลสำเร็จ รวมทั้ง เป็นสุข ต้องเป็น " ผู้รับจ้างมือโปร " ให้ได้ พูดง่ายแต่ว่าทำย ากนะ เพราะเหตุว่าลูกจ้างมืออาชีพก็คือคนที่ใส่ใจได้ว่า " เราถูกจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง " ซึ่งนี่ก็แปลว่าบริษัทเค้าอยากอะไรบางอย่ างจากพวกเราแลกกับค่าแรงงานนั้นๆ

พวกเราต้องรู้ดีว่าบริษัทว่าจ้างพวกเรามาทำอะไร และ ทำมันให้ดียิ่งกว่าที่บริษัทมุ่งหวังถ้าหากต้องการความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ หากงานที่ทำอยู่มีความคิดว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรทรหดอดทนทำไป


ควรหางานที่พวกเราทำแล้วพวกเราเป็นสุขรวมทั้งทำได้ดีเพื่อดึงประสิทธิภาพของตัวเองออกมาให้มากที่สุด นอกเหนือจากการที่จะทำให้พวกเราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังมีผลให้เราพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งพวกเราจะทราบเองว่าควรจะไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ชอบให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าหากสุดท้ายเราพบสายอาชีพที่พวกเรารักและก็อย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมาก

และก็ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " พวกเราถูกจ้างมาด้วยค่าจ้างจำนวนหนึ่ง " อย่ าทำงานมากเกินกว่าค่าแรงจนกระทั่งเหลือเกิน ทุ่มเทได้ แม้กระนั้นจะต้องมีผลลัพธ์ที่ดีตามออกมาด้วย ยกตัวอย่างเช่นได้ปรับค่าตอบแทนรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปดูด้านหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ในเวลานี้เค้าคืออะไรกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าบิดามารดาอายุมากขึ้นทุกๆวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเกิดเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้ท่านแล้วหาเวลาไป มันไม่ลำบากหรอก แลกเปลี่ยนกับความสำราญของพ่อแม่
ลูกน้อง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/